กลุ่มงานส่งเสริมการเทียบโอน/เทียบระดับการศึกษา
ประกอบด้วย 2 งาน
1.งานส่งเสริมการเทียบโอนผลการเรียน การเทียบระดับการศึกษา
2.งานศูนย์ทะเบียนนักศึกษา
เปรียบเทียบการเทียบระดับ/การเรียนแบบพบกลุ่ม/การเรียนแบบทางไกล
ก. การเทียบระดับแบบเดิม
1) รับผู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีอาชีพที่เลี้ยงตนเองหรือครอบครัวได้มาแล้ว 1 ปี ไม่รับพระภิกษุ
2) เทียบระดับ ทีละระดับ ( ถึงแม้ด้านประสบการณ์จะสามารถได้คะแนนข้ามระดับได้ แต่ด้านความรู้ฯยังจะต้องลงทะเบียนเทียบระดับตามลำดับขั้นทีละระดับ คือระดับประถม ม.ต้น ม.ปลาย ) ปกติให้ใช้เวลาระดับละ 6 เดือน แต่ถ้าไม่นับช่วงประชาสัมพันธ์-รับสมัคร ก็ใช้เวลาเพียงระดับละประมาณ 4 เดือน
ปีหนึ่งผู้ขอเทียบระดับสามารถขอเทียบระดับได้ 2 ครั้ง จึงอาจผ่าน 2 ระดับได้ใน 1 ปี ใช้เวลาน้อยกว่าการเรียนตามหลักสูตรฯแบบพบกลุ่มหรือแบบทางไกล
3) เนื้อหาด้านความรู้ฯ แบ่งเป็น 6 มาตรฐาน หรือ 6 วิชา คะแนนทุกวิชาถัวกันได้ เช่นได้คะแนนภาษาอังกฤษน้อยแต่ได้คะแนนวิชาอื่นมาก
ก็ผ่านได้ ด้านประสบการณ์ เน้นการพัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคมและชุมชน ( เนื้อหาจะง่ายกว่าแบบจบ ม.6 ใน 8 เดือน )
4) เน้นการไปประเมินเชิงประจักษ์ยังสถานที่ประกอบอาชีพจริง จึงสมัครเทียบระดับได้เฉพาะสถานศึกษาที่เป็นเขตที่ตั้งของสถานที่ประกอบ อาชีพ
5) มีพี่เลี้ยงอย่างไม่เป็นทางการ มีการเตรียมความพร้อมก่อนสอบบ้าง แต่ไม่มีการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการ
6) วุฒิที่ได้ เท่ากับจบในระบบ แต่ไม่มีเกรด จึงนำไปเรียนต่อในระบบแอดมิชชั่นไม่ได้ เรียนต่อมหาวิทยาลัยปิดได้ในบางหลักสูตรที่ไม่มีการแข่งขันหรือคัดเลือกโดย พิจารณาเกรดประกอบ แต่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเปิด ( มสธ. ม.รามฯ ) ได้
7) ค่าลงทะเบียน 1,500 บาท ( มีงบประมาณสมทบหัวละ 1,500 บาท รวมเป็น 3,000 บาท )
สรุป รูปแบบนี้เหมาะสำหรับ ผู้ใหญ่ ที่มีการพัฒนาอาชีพ มีการพัฒนาสังคมและชุมชน มีความรู้ในแต่ละระดับอยู่แล้ว ต้องการวุฒิการศึกษาโดยเร็ว ไม่เน้นเรียนต่อในมหาวิทยาลัยปิด ข้อดีคือได้วุฒิเร็ว ข้อเสียคือต้องเสียค่าลงทะเบียน 1,500 บาท ( การเทียบระดับประถม ต้องเลือกรูปแบบนี้ ผู้ที่มีวุฒิ ม.ต้นแล้ว ก็ควรเลือกเทียบระดับ ม.ปลาย รูปแบบนี้ )
ข. การเทียบระดับแบบจบ ม.6 ใน 8 เดือน ( ใช้กฎหมายการเทียบระดับฯฉบับเดียวกับการเทียบระดับแบบเดิม ) หมายเหตุ ยังไม่ประกาศใช้
1) รับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีอาชีพที่เลี้ยงตนเองหรือครอบครัวได้มาแล้ว 3 ปี รับพระภิกษุสามเณรด้วย
2) ไม่รับเทียบระดับประถม แต่รับผู้ที่มีวุฒิ ป.6 มาเทียบข้ามระดับให้ได้ ม.ปลายเลย ใช้เวลาประมาณ 8 เดือน แต่ถ้ายังผ่านไม่ครบ 9 วิชา ก็สะสมวิชาที่ผ่านแล้วไว้ได้ 5 ปี บางคนอาจต้องใช้เวลาถึง 5 ปี จึงผ่านครบ 9 วิชา จึงได้วุฒิ ม.ปลาย
3) เนื้อหาแบ่งเป็น 9 วิชา ต้องผ่านทุกวิชา คะแนนถัวกันไม่ได้ ทั้งวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิจัย ฯลฯ ต้องได้คะแนน 60 % ขึ้นไปทุกวิชา ( เนื้อหารวม จะยากกว่าเทียบระดับแบบเดิม ) ใช้เวลาน้อยกว่าการเรียนตามหลักสูตรฯแบบพบกลุ่มหรือแบบทางไกล
4) ไม่ประเมินด้านประสบการณ์ สามารถไปสมัครเทียบระดับที่ใดก็ได้ทั่วประเทศ
5) มีสื่อ ( หนังสือ ) และครูที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ มีการติว การเรียนการสอนเป็นทางการ
6) วุฒิที่ได้ เท่ากับจบในระบบ แต่ไม่มีเกรด จึงนำไปเรียนต่อในระบบแอดมิชชั่นไม่ได้ เรียนต่อมหาวิทยาลัยปิดได้ในบางหลักสูตรที่ไม่มีการแข่งขันหรือคัดเลือกโดย พิจารณาเกรดประกอบ แต่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเปิด ( มสธ. ม.รามฯ ) ได้
7) ค่าลงทะเบียน 1,500 บาท ( มีเงินงบประมาณปี 2556 สมทบหัวละ 3,000 บาท รวมเป็น 4,500 บาท )
สรุป รูปแบบนี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ประกอบอาชีพแล้ว 3 ปีขึ้นไป มีความรู้ในระดับ ม.ปลายอยู่แล้ว หรือมีความสามารถที่จะเรียนรู้ในระยะเวลาสั้น ต้องการวุฒิการศึกษาโดยเร็ว ไม่เน้นเรียนต่อในมหาวิทยาลัยปิด ข้อดีคือได้วุฒิเร็ว เข้าร่วมกระบวนการรอบเดียวข้ามระดับ ม.ต้น ได้ ม.ปลายเลย ข้อเสียคือเนื้อหายากที่จะผ่านครบ 9 วิชา และต้องเสียค่าลงทะเบียน 1,500 บาท
ค. การเรียนตามหลักสูตรฯ แบบพบกลุ่ม
1) รับผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่อายุต่ำกว่าแต่มีความจำเป็นไม่สามารถเรียนในระบบได้ ไม่ต้องมีอาชีพ
2) ให้เรียนตามลำดับขั้น ทีละระดับ คือระดับ ประถม ม.ต้น ม.ปลาย
3) เนื้อหาแบ่งเป็นหลายรายวิชา คล้ายในระบบโรงเรียน ปกติจะใช้เวลา 2 ปี มากกว่าการเทียบระดับ แต่ปัจจุบันปรับให้สามารถเรียนจบในแต่ละระดับได้ภายใน 1 ปี ( 2 ภาคเรียน ) ด้วยการเน้นให้เทียบโอนความรู้เพื่อไม่ต้องเรียนในบางรายวิชา และ เพิ่มจำนวนหน่วยกิตในการเรียนแต่ละภาคเรียนให้มากขึ้น
4) ต้องผ่านเงื่อนไขต่าง ๆ เช่นทำกิจกรรม กพช. สามารถสมัครเรียนที่ใดก็ได้
5) มีสื่อ ( หนังสือ ) และครูประจำกลุ่มอย่างเป็นทางการ มีการพบกลุ่ม สอนเสริม ถึงแม้อาจจะใช้เวลามากกว่าการเทียบระดับแต่มีโอกาสเรียนจบมากกว่า เพราะมีคะแนนระหว่างภาคเป็นคะแนนช่วย
6) วุฒิที่ได้ เท่ากับจบในระบบ และมีเกรด จึงนำไปเรียนต่อในระบบแอดมิชชั่น และเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้
7) เรียนฟรี ( มีเงินงบประมาณอุดหนุนรายหัว )
สรุป รูปแบบนี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่อายุไม่มาก มีอาชีพหรือไม่มีอาชีพก็ได้ ยังไม่มีความรู้ในแต่ละระดับ ศึกษาด้วยตนเองไม่ค่อยเข้าใจ มีเวลาพบกลุ่ม ต้องการความรู้และโอกาสเรียนจบมากกว่าการเทียบระดับ ไม่ถนัดการเรียนทางไกล การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต อาจเรียนต่อในมหาวิทยาลัยปิด ข้อดีคือมีโอกาสเรียนจบมาก เรียนฟรี ข้อเสียคือใช้เวลามากกว่าแบบเทียบระดับ มีขั้นตอนมากเช่นต้องทำกิจกรรม กพช. มีหลายรายวิชา ยุ่งยากในการประเมินผลหลายรายวิชา
ง. การเรียนตามหลักสูตรฯ แบบทางไกล ของสถาบันการศึกษาทางไกล ( หลักสูตรเดียวกันกับแบบพบกลุ่ม )
1) รับผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่อายุต่ำกว่าแต่มีความจำเป็นไม่สามารถเรียนในระบบได้ มีอาชีพหรือไม่มีอาชีพก็ได้
2) รูปแบบนี้ในประเทศไม่รับระดับประถม ให้เรียนตามลำดับขั้น ทีละระดับ คือระดับ ม.ต้น ม.ปลาย
3) เนื้อหาแบ่งเป็นหลายรายวิชาคล้ายในระบบโรงเรียน ปกติจะใช้เวลา 2 ปี มากกว่าการเทียบระดับ แต่ปัจจุบันปรับให้สามารถเรียนจบในแต่ละระดับได้ภายใน 1 ปี ( 2 ภาคเรียน ) ด้วยการเน้นให้เทียบโอนความรู้เพื่อไม่ต้องเรียนในบางรายวิชา และ เพิ่มจำนวนหน่วยกิตในการเรียนแต่ละภาคให้มากขึ้น
4) ต้องผ่านเงื่อนไขต่าง ๆ แต่สถาบันการศึกษาทางไกลพัฒนาแต่ละเงื่อนไขให้สะดวก เช่น การเทียบโอนผลการเรียนจากการประเมินความรู้และประสบการณ์ ใช้วิธีทดสอบเพียงอย่างเดียว การทำกิจกรรม กพช.มีความชัดเจน การเก็บคะแนนระหว่างภาคใช้วิธีให้สอบแบบอัตนัยที่บ้านเพียงอย่างเดียว จนสะดวกและง่ายกว่าการเรียนแบบพบกลุ่มเสียอีก
5) มีสื่อผสมที่ละเอียด เพื่อการศึกษาด้วยตนเอง และมีครูประจำวิชาอย่างเป็นทางการ ไม่ต้องพบกลุ่ม จะเข้ารับการสอนเสริมหรือไม่ก็ได้ ถึงแม้อาจจะใช้เวลามากกว่าการเทียบระดับแต่มีโอกาสเรียนจบมากกว่า เพราะมีคะแนนระหว่างภาคเป็นคะแนนช่วย ( มีวิชาบังคับเลือก ที่เหมาะสำหรับการศึกษาต่อ )
6) วุฒิที่ได้ เท่ากับจบในระบบ และมีเกรด จึงนำไปเรียนต่อในระบบแอดมิชชั่น และเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้
7) เรียนฟรี ( มีเงินงบประมาณอุดหนุนรายหัว )
สรุป รูปแบบนี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่อายุไม่มาก ศึกษาด้วยตนเองได้ ต้องการไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น มีอาชีพหรือไม่มีอาชีพก็ได้ ยังไม่มีความรู้ในแต่ละระดับ ไม่มีเวลาพบกลุ่ม ต้องการความรู้และโอกาสเรียนจบมากกว่าการเทียบระดับ ถนัดการเรียนทางไกล การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ข้อดีคือมีโอกาสเรียนจบมาก เรียนฟรี สะดวกในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ข้อเสียคือใช้เวลามากกว่าแบบเทียบระดับ ต้องมีวินัยในตนเอง รับผิดชอบในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เข้าชม : 11284 |